ตารางคะแนนสวิสชาลเลนจ์ลีก


คุ้นหูคุ้นตากันดีอยู่แล้วกับทีมอย่าง บาเซิ่ล, กราสส์ฮ็อปเปอร์ หรือ ยัง บอยส์ ที่ถูกจับมาเจอกับทีมใหญ่ๆ อยู่บ่อยครั้งในเวทียุโรปน้อยใหญ่ แต่ก็คงมีไม่มากนักที่จะเข้าใจในความเป็นลีกเก่าแก่ 126 ปี ตารางคะแนนสวิสชาลเลนจ์ลีก แบบลงลึก — รู้หรือไม่ว่า Swiss Super League มีแข่งกันเพียง 10 ทีมเท่านั้น!

ตารางคะแนนสวิสชาลเลนจ์ลีก

ระบบการแข่งขันในตารางคะแนนสวิสชาลเลนจ์ลีก

ความที่เป็น “ไซส์เล็ก” แบบนี้ก็ด้วยเพราะ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเพียงชาติเล็กๆ ติดกับตอนเหนือของอิตาลี มีพื้นที่ประมาณ 2 เท่าของโคราชเท่านั้น แถมสภาพภูมิประเทศกว่า 70% ยังเป็นภูเขา แต่แม้จะเล่นกันแค่ 10 ทีม ก็เตะกันแบบเต็มอัตรา แต่ละทีมจะต้องลงสนามกันถึง 36 เกมตลอดฤดูกาล ซึ่งหมายถึงต้องเจอกันจนเบื่อ 4 เกมต่อซีซั่น และที่สำคัญ ทั้งที่เล่นกันแค่ 10 ทีม สวิสซูเปอร์ลีกก็ได้โควต้าตีตั๋วยุโรปจาก ยูฟ่า มากถึง 5 ใบ คือ แชมป์กับรองแชมป์ ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก, อันดับ 3-4 ไปยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก จนถึงแชมป์สวิสคัพ ได้ไป ยูโรป้า ลีก

10 สโมสรแห่งตารางคะแนนสวิตซูเปอร์ลีก

ปีนี้ 10 แต่ปีหน้า 2023/24 จะถูกขยับขึ้นเป็น 12 สโมสร ซึ่งจะมาจากการคัดทีมเลื่อนชั้นขึ้นจาก ตารางคะแนนสวิตซูเปอร์ลีก ดิวิชั่น 2 หรือ “สวิสชาลเลนจ์ลีก” โดยอัตโนมัติ 2 ราย (แชมป์กับรองแชมป์) แถมยังบวกอีกหนึ่งโควตากับอันดับ 3 ที่จะได้เพลย์ออฟกับบ๊วยของลีกสูงสุด

  • ยัง บอยส์ (BSC Young Boys)

ตัวแทนเดียวจากเมืองหลวงอย่างกรุงเบิร์น – ยัง บอยส์ ทีมเก่าแก่อายุ 124 ปี ก่อตั้งขึ้นด้วยชื่อนี้ตั้งแต่แรก ด้วยความตั้งใจเลียนแบบและยั่วล้อไปกับชื่อ “โอลด์ บอยส์” ทีมรุ่นพี่ในเมืองบาเซิ่ล โดยพวกเขาไปถึงแชมป์ลีกสวิสตั้งแต่เริ่มสร้างตัวได้ไม่นาน คว้าแชมป์แรกในปี 1903 จนล่าสุดแชมป์ปี 2021 นับเป็นแชมป์สมัยที่ 15 แล้ว กระนั้น ซีซั่นก่อนก็เข้าป้ายเพียงอันดับ 3

  • เซอร์เว็ตต์ (Servette)

เซอร์เว็ตต์ หรือจะเรียกว่า เซอร์เว็ตต์ เจนีวา ก็ไม่ผิดนั้น ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งด้วยการครองแชมป์ลีก 17 สมัย, สวิสคัพ 7 สมัย บวกด้วย สวิสลีกคัพ อีก 3 รอบ กระนั้นพวกเขาก็เป็นเสมือน “ยักษ์หลับ” ที่ร้างราโทรฟี่มานานถึง 23 ปีแล้ว หรือตั้งแต่ 1998/99 ทีเดียว โดยซีซั่นก่อนจบที่เพียงอันดับ 6 ในสวิตเซอร์แลนด์

  • เซนต์ กัลเลน (St. Gallen)

ใครแก่กว่าขอให้ยกมือขึ้น… เงียบกริบกันหมดเพราะ เซนต์ กัลเลน ฟอร์มทีมกันตั้งแต่ ค.ศ. 1879 หรือ 143 ปีมาแล้ว เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ หรือกระทั่ง เชลซี (117), ลิเวอร์พูล (130), อาร์เซน่อล (136) ยังต้องเรียกพี่ เพียงแต่เก่าแก่สุดก็ใช่ว่าจะเจ๋งสุด เซนต์ กัลเลน เคยได้แชมป์ลีกมาเพียง 2 ครั้งเท่านั้น รวมถึงช่วงหลังๆ ก็มีหลุดหล่นชั้นลงบ้างเหมือนกัน

  • ซิยง (Sion)

ซิยง เคยเจอปัญหาการเงินจนถึงเกือบล้มละลายมาแล้ว ก่อนถูกเทกโอเวอร์ชุบชีวิตใหม่ในปี 2003 โดย คริสเตียน คอนสแตนติน อดีตนายทวารยุค 80 …ผู้ซึ่งทำตัวให้ “เป็นข่าว” ได้แบบรัวๆ สร้างชื่อ (เสีย) ไว้หลายเคสมาก ทั้งเปลี่ยนโค้ชมามากกว่า 40 ครั้ง รวมถึงตั้งตัวเองคุมเอง (รักษาการ) ในปี 2008, โดนแบนจากเวทียุโรปข้อหาติดหนี้ชาวบ้านเยอะจัด, ตัวเองโดนแบน 14 เดือนฐานตบหน้านักข่าว, สร้างข้อพิพาทกับ อัล อาห์ลี ในดีล เอสซัม เอล ฮาดารี จนทีมโดนแบนซื้อตัว และไล่นักเตะในทีมออก 9 ราย ฐานไม่ยอมลดค่าจ้างช่วยทีมในช่วงวิกฤตโควิด

  • กราสส์ฮ็อปเปอร์ (Grasshopper)

ตั๊กแตนอาละวาดแห่งลีกสวิสส์ เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศ คว้าแชมป์ลีก 27 สมัย บอลถ้วยอีก 21 ครั้ง ทว่าก็ได้แค่ชะเง้อดูคู่แข่งผงาดในสวิสซูเปอร์ลีกมาร่วม 2 ทศวรรษแล้ว จากแชมป์ล่าสุดที่ได้ในปี 2003 และซีซั่นที่แล้วก็ฟุบหนัก จบที่เพียงอันดับ 8 (อย่าลืมว่าลีกมีแค่ 10 ทีม!)

  • บาเซิ่ล (Basel)

ถูกจับมาเจอกับทีมใหญ่อยู่ตลอดในเวทียุโรป เมื่อสี่ซ้าห้าปีก่อน (2017/18) ก็เคยเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้วด้วยใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนแพ้ แมนฯ ซิตี้ ร่วงรอบน็อกเอาต์ ทั้งนี้ บาเซิ่ล ประสบความสำเร็จที่สุดในช่วง 20 ปีหลัง โดยเคยสร้างประวัติศาสตร์ฟาดแชมป์ได้ถึง 8 ปีติดต่อกัน ระหว่าง 2010-2017 รวมแล้วเคยได้แชมป์ 20 สมัย

  • ลูกาโน่ (Lugano)

เจ้าของแชมป์สวิสคัพซีซั่นที่แล้ว เลื่อนชั้นจากตารางคะแนนสวิสชาลเลนจ์ลีกขึ้นมาลีกสูงสุดได้ไม่นานนัก แต่ก็มีผลงานดีเสมอมา ลูกาโน่ มีรังเหย้าอย่าง คอร์นาเรโด้ สเตเดี้ยม (Cornaredo Stadium) ที่มีความจุแค่ 6,390 ที่นั่งเท่านั้น เล็กที่สุดในลีก และเล็กกว่าสนามของหลายๆ ทีมในไทยลีกด้วยซ้ำไป

  • ลูเซิร์น (Luzern)

ตัวแทนหนึ่งเดียวของเมืองท่องเที่ยวอย่าง ลูเซิร์น รอดตกชั้นอย่างใจหายใจคว่ำ จากการจบอันดับ 9 ซีซั่นก่อน และต้องเพลย์ออฟกับอันดับ 2 ชาลเลนจ์ลีกอย่าง ชาฟฟ์เฮาเซ่น ก่อนที่พวกเขาจะเอาชนะ 4-2 ในสกอร์รวม (2-2, 2-0) จนได้อยู่ต่อในลีกสูงสุด

  • วินเทอร์ธูร์ (Winterthur)

น้องใหม่รายล่าสุดของสวิสซูเปอร์ลีก ครองแชมป์ชาลเลนจ์ลีกชนิดเชือดเฉือนกับ ชาฟฟ์เฮาเซ่น อย่างสนุกสุดแสน และชนะอย่างหวุดหวิดแค่เพียงผลต่างประตูได้เสีย (+31 : +24) เท่านั้น หลังแต้มเสมอกันที่ 65:65 โดยถือเป็นการกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังร่วงไปตั้งแต่ต้นยุค 80 เลยทีเดียว

  • ซูริค (Zurich)

ปิดท้ายกับแชมป์เก่า เอฟซี ซูริค อีกทีมเก่าแก่อายุ 126 ปี ซึ่งในอดีตเคยสร้างชื่อไว้เป็นทีมจากลีกสวิสที่ไปได้ไกลสุดใน ยูโรเปี้ยน คัพ อย่างการเข้าถึงตัดเชือกในปี 1964 และ 1977 (แพ้ เรอัล มาดริด กับ ลิเวอร์พูล ตามลำดับ) ซึ่งก็ไม่เคยมีใครทำซ้ำได้อีกเลย แต่แม้จะไปถึงเส้นชัยในลีกซีซั่นก่อน แต่มาปีนี้ปรากฏว่า ซูริค ผิดฟอร์มอย่างน่าเกลียด ผ่าน 9 เกมแรกแบบไม่ชนะใคร เสมอ 3 แพ้ 6 จมบ๊วยของตารางคะแนนฟุตบอลสวิสซูเปอร์ลีกไปเสีย